รถเบนซ์ ชน แม่บ้าน ศีรษะขาด – ขาขาดเสียชีวิตโดยฉับพลัน

รถเบนซ์ ชน แม่บ้าน ศีรษะขาด – ขาขาดเสียชีวิตโดยฉับพลัน

เมื่อเช้าตรู่ของวันนี้ ได้เกิดเหตุการณ์สลด รถเบนซ์ ชน แม่บ้าน สูงวัยจน ศีรษะขาด – ขาขาดเสียชีวิตโดยฉับพลัน ณ ทางหลวงหมายเลข 347 (14 มิ.ย. 2565) เมื่อเวลา 05.30 น. ของวันนี้ ร.ต.อ. วรภักดิ์ สุภสวัสดิ์ ร้อยเวรสอบสวนประจำ สภ.สามโคก ปทุมธานี ได้รับแจ้งเหตุอุบัติเหตุรถยนต์ชนผู้ข้ามถนนเสียชีวิต บริเวณถนนปทุมธานี-บางปะหัน ทางหลวงหมายเลข 347 (มุ่งหน้าบางปะหัน) กม.11+500 ต.เชียงรากน้อย อ.สามโคก จ.ปทุมธานี

โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เดินทางไปพร้อมกับแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และเจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง เพื่อดำเนินการ ณ ที่เกิดเหตุ

ซึ่ง ณ ที่เกิดเหตุนั้น ก็ได้พบกับผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสูงวัย 1 ราย จากการตรวจสอบก็ทราบชื่อว่าคือ นางบุบผา กรมวัง อายุ 63 ปี ทำงานเป็น แม่บ้าน ประกันสังคม โดยสภาพศพนั้นมีลักษณะ ศีรษะขาด และขาขาดกระเด็นออกไปจากร่างกาย ใกล้กันก็พบกับ รถเบนซ์ (รถยนต์ส่วนบุคคล) ที่มีสภาพด้านหน้าพังยับเยิน พร้อมทั้งมีคราบเลือดติดอยู่จากการ ชน

ทางด้านของคนขับนั้น ก็ได้ยืนรอให้การเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ โดยไม่มีการหลบหนีแต่อย่างใด ทราบชื่อในภายหลังว่าคือ นายวิรัช ชุลีพันธุมาศ อายุ 61 ปี ซึ่งได้ให้การว่า ตนเองเป็นผู้ขับรถยนต์คันดังกล่าว ขับมาจากเส้นทางกรุงเทพมหานคร มุ่งไปยัง จ. พิษณุโลก เพื่อจะนำชุดครุยรับปริญญาไปคืน

ในระหว่างที่ขับมาถึงบริเวณที่เกิดเหตุนั้น เนื่องจากไฟส่องสว่างข้างทางดับ ทำให้ทัศนวิสัยไม่ดี ส่งผลให้นางบุบผาที่กำลังเดินข้ามทางในเวลาเดียวกันถูกชนเข้ากับตัวรถอย่างเต็มแรงจนเสียชีวิต และมีสภาพศพตามที่ได้พบเห็น

นายนิพล กรมวัง อายุ 55 ปี สามีผู้เสียชีวิตได้ให้การเพิ่มเติมว่า ภรรยาของตนทำงานเป็นแม่บ้านประกันสังคม และจะทำการข้ามถนน ณ บริเวณดังกล่าวเป็นประจำ โดยไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุถึงชีวิตภายในวันนี้

นอกจากนี้แล้วนั้น ชาวบ้านคนอื่น ๆ ในพื้นที่ได้ให้การเสริมด้วยว่า ในบริเวณถนนเส้นนี้ ไฟส่องสว่างข้างทางได้ชำรุดมาเป็นระยะเวลานานแล้ว และยังไม่ได้รับการเร่งดำเนินการแก้ไขจากทางหน่วยงานแขวงการของจังหวัดปทุมธานี จึงได้มีการฝากเรียนให้เร่งดำเนินการแก้ไขด้วย

เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามโคก ได้ดำเนินการบันทึกภาพที่เกิดเหตุ เพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดี พร้อมทั้งประสานงานให้เจ้าหน้าที่มูลนิธิปอเต็กตึ้ง นำส่งศพผู้เสียชีวิตไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินการชันสูตรในขั้นต่อไปอีกทีหนึ่ง

เพจดังเปิด ความหมายตราสัญลักษณ์พระราชพิธีพระพันปีหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา

เพจดังเผย ความหมายตราสัญลักษณ์พระราชพิธีพระพันปีหลวง เฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม เพจเฟซบุ๊ก โบราณนานมา ได้โพสต์ข้อความและรูปภาพว่าด้วยเรื่องของ ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

โดยทางเพจ โบราณนานมา อธิบาย ความหมาย ตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90

ซึ่งความหมายมีดังนี้ “ภาพตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565

ความหมายตราสัญลักษณ์พระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 อักษรพระนามาภิไธย ส.ก. อยู่ภายในกรอบรูปหัวใจพื้นสีฟ้า

อักษร “ส” สีฟ้า เป็นสีประจำวันพระราชสมภพ

อักษร “ก” สีขาว เป็นสีเดชของวันพระราชสมภพ

พื้นกรอบสีชมพูลายดอกมะลิ สีชมพูเป็นสีแห่งศรีของวันพระราชสมภพ ดอกมะลิเป็นดอกไม้มงคลสัญลักษณ์วันแม่แห่งชาติ ด้านบนเป็นพระมหามงกุฎภายในประดิษฐานพระแสงจักร และพระแสงตรี สื่อถึงทรงอยู่ใน

พระบรมราชจักรีวงศ์ ขนาบซ้าย ขวา พระมหามงกุฎด้วยพระสัปตปฎลเศวตฉัตร ฉัตรขาว 7 ชั้น เป็นฉัตรประกอบพระราชอิสริยยศของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

การนำดอกมะลิมาร้อยเรียงเป็นมาลัยลายเกลียวรูปหัวใจรอบอักษรพระนามาภิไธย ส.ก. สื่อถึงการร้อยเรียงดวงใจอย่างกลมเกลียวถวายพระองค์ผู้ทรงเป็นแม่ของแผ่นดิน ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจชาวไทยทั้งชาติและผู้ทรงพระคุณ อันประเสริฐยิ่งต่อลูกคือประชาชนชาวไทยทุกหมู่เหล่าให้พ้นจากความทุกข์ยาก และมีอาชีพเลี้ยงตน

รูปลายหงส์ประคองฉัตร ซ้าย ขวา หมายถึงพระสิริโฉมสง่างามสูงค่าดังหงส์ ลวดลายไทย หมายถึงพระปรีชาชาญยิ่ง

Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่า